DRT’ วิเคราะห์ตลาดวัสดุก่อสร้างไตรมาส 3 ชะลอตัวจากช่วงโลว์ซีซั่น ก่อนฟื้นตัวในไตรมาสสุดท้าย มั่นใจผลดำเนินงานทั้งปีได้ตามเป้า หลังผลงานครึ่งปีแรกยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจ พร้อมตอกย้ำจุดเด่น DRT เป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสม่ำเสมอ ท่ามกลางการหดตัวของภาวะเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ระดับต่ำ
นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRTผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด ยิปซัม อิฐมวลเบา คานทับหลัง เคาน์เตอร์มวลเบาสำเร็จรูปและบริการหลังการขายภายใต้สินค้า ‘ตราเพชร’ มองแนวโน้มตลาดวัสดุก่อสร้างในไตรมาส 3 คาดว่าจะชะลอตัวจากการเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่นหรือนอกฤดูกาลขายสินค้า ก่อนกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปี
โดยมีปัจจัยจากกลุ่มลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องเร่งปิดการขายบ้านเพื่อผลักดันยอดขาย เช่นเดียวกับช่องทางห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ (โมเดิร์นเทรด) จะกลับมาคึกคักขึ้น จากความต้องการซื้อวัสดุก่อสร้างไปปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยในช่วงปลายปี รวมทั้งการทยอยออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ
ส่วนภาพรวมการดำเนินงานของ DRT ในปี 2563 มั่นใจว่าจะรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นได้ในระดับ 25-27% และการรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ย 80-90%ของกำลังการผลิตโดยรวม แม้ยอดขายโดยรวมชะลอตัวไปบ้าง เนื่องจากในครึ่งปีแรก DRT ทำผลงานอยู่ในระดับเป็นที่น่าพอใจ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจและตลาดวัสดุก่อสร้างได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคไวรัสCOVID-19
นายสาธิต กล่าวว่า การดำเนินงานครึ่งปีแรกของ DRT ยังเป็นไปตามเป้า โดยช่องทางเอเย่นต์หรือร้านตัวแทนจำหน่ายวัสดุก่อสร้างรายย่อยเป็นตัวขับเคลื่อน โดยได้ปรับกลยุทธ์ขยายตลาดและฐานลูกค้าเพิ่มเติมในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว เพื่อชดเชยกับช่องทางห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยและลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่ฟื้นตัว จึงมั่นใจว่า จะผลักดันผลการดำเนินงานได้ดีกว่าภาพรวมอุตสาหกรรม
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DRT ย้ำด้วยว่า DRT เป็นหุ้นที่ให้อัตราผลตอบแทนที่ดี จากเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ แม้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศชะลอตัวอย่างรุนแรง และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่อยู่ในระดับต่ำ โดยนับจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อปี 2548 ได้จ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจาก DRT มีความแข็งแกร่งด้านกระแสเงินสดจากการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่ง และเพียงพอต่อการลงทุนเพื่อผลักดันการเติบโตทางธุรกิจ
ปัจจุบันโครงการขยายกำลังการผลิตเครื่องจักรในสายการผลิตไฟเบอร์ซีเมนต์ NT-11 เพื่อขยายกำลังการผลิตสินค้ากลุ่มไม้สังเคราะห์อีก 5.5 หมื่นตันต่อปี มีความคืบหน้าไปมากแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสสุดท้ายปีนี้ และเริ่มเดินเครื่องจักรเชิงพาณิชย์ได้ในต้นปี 2564 ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตของผลดำเนินงาน
July 09, 2020 at 04:35PM
https://ift.tt/2ZVfCtJ
ตลาดวัสดุก่อสร้างฟื้นตัวไตรมาสสุดท้าย หลายโครงการเร่งปิดการขาย ดันยอดปลายปี - ผู้จัดการออนไลน์
https://ift.tt/345xfZf
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ตลาดวัสดุก่อสร้างฟื้นตัวไตรมาสสุดท้าย หลายโครงการเร่งปิดการขาย ดันยอดปลายปี - ผู้จัดการออนไลน์"
Post a Comment