เศรษฐกิจผวาโควิด-19 รอบสอง - สยามรัฐ

ekonomikesatu.blogspot.com

รัฐบาลยืนยันว่าการตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ “ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ” จะไม่ซ้ำซ้อนกับการทำงานของคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน ที่มีการตั้งรัฐมนตรีขึ้นมารับผิดชอบ 29 คนขึ้นมารับผิดชอบโซนจังหวัดต่างๆ

ทั้งนี้ คณะกรรมการขับเคลื่อนไทยถูกมองในมิติการเมืองมากกว่า เนื่องจากการในการแบ่งพื้นที่ดูแลรับผิดชอบนั้น เชื่อมโยงกับฐานเสียงของพรรคการเมืองต้นสังกัดของรัฐมนตรีและตัวรัฐมนตรี

อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังในการแก้ไขปัญหา เศรษฐกิจ กับทีมเศรษฐกิจใหม่ในครม. บิ๊กตู่2/2 และศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ จะเป็นกลไกสำคัญที่จะคู่ขนานกันในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยมีคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยเป็นตัวช่วย

เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน จากรายงานภาวะสังคมไตรมาส 2/2563 นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ระบุว่า มีแรงงานที่อยู่ในระบบตกงานเพิ่มขึ้น 420,000 คน และอีก 1.7 ล้านคน ยังมีสถานะเป็นผู้มีงานทำ แต่ยอมลดเงินหรือหรือหยุดทำงานชั่วคราวโดยไม่รับเงินเดือน แต่คนกลุ่มนี้มีความเสี่ยงที่จะตกงาน หากสถานการณ์เศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น และธุรกิจต้องปิดกิจการลง

นอกจากนี้ ยังเป็นห่วงผู้ประกอบอาชีพอิสระ เช่น พ่อค้า แม่ค้า วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง อีก 16 ล้านคน อาจขาดสภาพคล่อง ซึ่งภาครัฐต้องเข้าไปดูแลเป็นการเฉพาะ อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์โควิด-19 ในไทยเกิดการระบาดรอบ 2 รุนแรงถึงขั้นล็อกดาวน์เศรษฐกิจอีกรอบ อาจมีคนตกงานเพิ่มขึ้นเป็น 8 ล้านคน

นายทศพร กล่าวด้วยว่าหนี้ภาคครัวเรือนต่อจีดีพีไตรมาส 1/2563 พุ่งขึ้นมาอยู่ 80.1% สูงสุดในรอบ 4 ปี โอกาสที่หนี้ต่อจีดีพีจะเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้คนมีรายได้มากขึ้น เพื่อส่วนหนึ่งนำไปชำระหนี้คืน

อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่ง ดร.วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เปิกเผยว่า ในการประชุมนักวิเคราะห์ (Analyst Meeting) ครั้งที่ 2/2563 ว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยกำลังทยอยฟื้นตัว แต่ยังมีหลายคนที่มีความกังวลเรื่องการระบาดรอบที่ 2 ของไวรัส COVID-19 ซึ่ง ธปท.มองว่า รัฐบาลไทย โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ มีความสามารถบริหารจัดการได้ และควบคุมโรคได้

ดังนั้น การออกมาตรการในการควบคุมการระบาดที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน อาจไม่มีความจำเป็นเท่าที่ผ่านมา นอกจากนี้ ประชาชนและภาคธุรกิจไทยมีการเรียนรู้ รับตัว และ ป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดมาอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ความกังวลเรื่องการระบาดของ COVID-19 รอบสองในประเทศไทย ธปท.ได้พูดคุยกับกรมควบคุมโรคอย่างใกล้ชิด โดยปัจจุบันกรมควบคุมโรคมีศักยภาพในการควบคุมได้

อย่างไรก็ตาม ธปท.คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะทยอยฟื้นตัวในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปีนี้ โดยในไตรมาสที่ 2 เป็นจุดต่ำสุดของเศรษฐกิจไทย ขณะที่ในกรณีเลวร้ายที่สุดที่อาจทำให้จุดต่ำสุดอาจลากยาวจนถึงไตรมาส 3 คาดว่าจะไม่ได้มาจากปัจจัยภายในประเทศ แต่มาจากปัจจัยของเศรษฐกิจโลก

เราเห็นว่า การป้องกันการแพร่ระบาดรอบสองเป็นเรื่องสำคัญมาก และการปลอดโควิดจะสร้างบรรยากาศความเชื่อมั่นการบริโภค จับจ่ายใช้สอยของประชาชน และการลงทุน ในทางกลับกันหากโชคร้าย เชื้อไวรัสโควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดรอบสองก็จะทุบเศรษฐกิจให้ดิ่งเหวลึกลงไปอีก