Search

เศรษฐกิจไทยใกล้สิ้นใจ ศบศ. ไม่ช่วยอะไร - โพสต์ทูเดย์

ekonomikesatu.blogspot.com

เศรษฐกิจไทยใกล้สิ้นใจ ศบศ. ไม่ช่วยอะไร

วันที่ 31 ส.ค. 2563 เวลา 20:10 น.

แม้จะปรับ ครม. ตั้ง ศบศ. ก็ยังไม่ได้ทำให้การแก้วิกฤตเศรษฐกิจ ดูดีขึ้นมีหวังขึ้นอย่างที่ประชาชนและนักลงทุนฝันไว้

เศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรก 2563 อยู่ในภาวะวิกฤตจากโควิด-19 และปัญหาการเมือง โดยหวังว่าครึ่งปีหลังจะดีขึ้น เพราะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่ รัฐบาลมีการตั้งศูนย์บริหารสถารการณ์เศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หรือ ศบศ. ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม นั่งเป็นประธาน

ศบศ. ถูกคาดหวังว่า จะเป็นอัศวินขี้ม้าขาวมากรอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจไทย เนื่องจากมีการร่วมตัวกันทั้งภาครัฐและเอกชน แต่เวลาผ่านไป ประชาชนและนักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจว่า ศบศ. จะพาเศรษฐกิจผ่านมรสุมโควิด-19 ไปได้หรือไม่

ล่าสุด ธนาคารกรุงไทย คาดว่า เศรษฐกิจปี 2563 จะขยายตัวติดลบ 10% ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาระบุว่าเศรษฐกิจปีหน้ามีความเสี่ยงมากกว่าปีนี้ ทำให้เห็นภาพว่า ศบศ. ไม่ได้ช่วยให้เศรษฐกิจไทยมีความหวังมากขึ้น

การลาออกของทีมเศรษฐกิจของ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และ 4 ยอดกุมาร ทำให้เศรษฐกิจไทยหยุดนิ่งในวิกฤต 1 เดือน ตอนนี้รัฐบาลได้ทีมเศรษฐกิจใหม่มาแล้วเกือบครบ 1 เดือน แต่การแก้วิกฤตเศรษฐกิจจากโควิด-19 ยังไม่มีอะไรใหม่

การตั้ง ศบศ. มาแทน ครม. เศรษฐกิจ ที่เหลวไม่เป็นท่าก่อนหน้านี้ เหมือนเป็น ประวัติศาสตร์ที่เดินซ้ำรอยเดิม

หลังจากการประชุม ศบศ. สองสัปดาห์ก่อนนัดแรก ทำได้แค่ประมวลภาพปัญหาเดิมที่ไทยเจออยู่ ไม่ว่าจะเศรษฐกิจหดตัวรุนแรง มีการปิดกิจการต่อเนื่อง และมีการตกงานจำนวนมาก แต่ไม่มีมาตรการออกมาว่าจะแก้ไขปัญหานั้นอย่างไร ทั้งที่การแก้เศรษฐกิจไทยตอนนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน

สัปดาห์ที่ผ่านมา ศบศ ไม่มีการประชุม ทั้งที่ควรมีการประชุมทุกสัปดาห์ เพื่อ ติดตามออกมาตรการอย่างใกล้ชิด และสัปดาห์นี้ก็ยังไม่มีแผนการประชุม ซึ่งปัญหานี้เหมือนกับ ครม. เศรษฐกิจ ที่ผ่านมา ที่ประชุมไม่กี่ครั้ง มี มาตรการไม่เป็นชิ้นเป็นอัน เป็นมาตรการเก่าที่เอามาแต่งตัวใหม่ ทำให้การแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ดีขึ้น

ศบศ. ยังน่ามีปัญหามากกว่า ครม. เศรษฐกิจ เพราะมีการตั้งคณะกรรมการ และอนุกรรมการ ทำให้การทำงานซ้ำซ้อน โดยให้คนนอกมานั่งเป็นประธาน ทั้งที่ควรเป็นข้าราชการเมือง หรือข้าราชการประจำ ทำให้ถูกมองว่า คณะกรรมการและอนุกรรมการจะมีผลประโยชน์ขัดแย้งหรือไม่ มีการคิดหรือออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือธุรกิจที่ตนเองเกี่ยวข้องอยู่ มากกว่ามองภาพรวมของการแก้ปัญหาที่เร่งด่วนหรือไม่

เมื่อเป็นเช่นนี้ ศบศ. ที่นายกนั่งเป็นประธานกำลังล่มเหมือน ครม. เศรษฐกิจที่ ผ่านมา

การคาดหวังของประชาชนและนักลงทุน ต้องการให้ ศบศ. ออกมาตรการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจทันที ทำได้จริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแก้ไขธุรกิจปิดกิจการ การแก้ไขปัญหาตกงาน ซึ่งเป็นข้อมูลปัญหาที่รู้กันหมดว่าเป็นอย่างไร แต่ ศบศ. ยังคิดไม่ตกว่าจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร

ศบศ. มีการคิดเรื่องการจ้างงานให้ได้ 1 ล้านคน แต่ไม่มีมาตรการที่เป็น รูปธรรมว่าจะทำอย่างไร กระทรวงแรงงานปฏิเสธคนตกงาน 8 ล้านคน เพราะตอนนี้มีแค่ 3 ล้านคน แล้วคำถามคือ จะตกงาน 3 ล้านคน หรือ 8 ล้านคน จะมีมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วนอย่างไร

การมี ศบศ. ไม่ได้ช่วยอะไรเศรษฐกิจ เห็นได้ชัดมากขึ้น เมื่อ นายกรัฐมนตรีเข้าตาจนออกมาข้อร้องให้ผู้ประกอบการขอให้อย่าเลิกจ้างงาน เพราะทำให้คนตกงานเดือดร้อน ทั้งๆ ที่รู้ว่าผู้ประกอบการเองก็เต็มกลืนอยู่ไม่ได้ไม่มีรายได้เข้า เพราะกิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก และจะเอาเงินเอาแรงที่ไหนไปจ้างงาน

การแก้ปัญหาท่องเที่ยวที่เป็นเส้นเลือดใหญ่ของเศรษฐกิจ มีมาตรการเราเที่ยวด้วยกันเหลวไม่เป็นท่า ศบศ. ก็ไม่ได้หยิบยกมาตรการนี้มาแก้ปัญหาจริงจัง ปล่อยให้เจ้ากระทรวงแก้ไปตามมีตามกรรม เพิ่มเงื่อนไขให้เที่ยวได้จาก 5 คืน มาเป็น 10 คืน ไม่ได้ดูปัญหาว่าจริงๆ ตอนนี้ให้เพิ่มเป็นกี่คืน ก็ไม่มีใครเอาเงินไปเที่ยว และคนที่อยากเที่ยวก็ไม่มีเงิน

จากข้อมูลของ สถาบันคุ้มครองเงินฝาก บอกว่า มีการฝากเงินมากขึ้นมากกว่า 1 ล้านราย เพราะไม่มั่นใจเศรษฐกิจ

ล่าสุดส่วนดุสิตโพล สำรวจความวิตกกังของประชาชนต่อการเมือง เศรษฐกิจและ สังคม พบว่า

ในส่วนของการเมือง ความขัดแย้งทางการเมือง ทั้งม็อบนักศึกษาต่อ ต้านรัฐบาล หรือ ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้าน มาเป็นอันดับหนึ่งถึง 75.80% เรื่องการซื้อเรือดำนำแซงหน้าพุ่งพรวดขึ้นมาเป็นอันดับ 66.22% เพราะมาไม่ถูกที่ถูกเวลา ในขณะที่คนส่วนใหญ่ของประเทศอดยากจากผล กระทบโควิด และรัฐบาลอยู่ในภาวะถังแตก แต่มีการอนุมัติซื้อเรือดำน้ำอีก 2 ลำ กว่าอีก 2 หมื่นล้านบาท

ผลสำรวจเศรษฐกิจ ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า รัฐบาล ไม่ว่า จะเป็น ครม. รวมถึง ศบศ. แก้เศรษฐกิจไทยเหลว เพราะประชาชนยังกังวลหนี้สิน 80.78% สินค้า ราคาแพง 76.78% และการว่างงาน 74.64% จะเห็นว่า ประชาชนกังวลเรื่อง ปากท่อง ที่เป็นปัญหาที่รัฐบาลรู้ดี แต่จนทางแก้ไม่ได้ เหมือนคิดไม่ออกเดินต่อ ไม่ได้ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร

ในด้านสังคม เรื่องการทุจริต ขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง 83.56% ซึ่งเป็นมะเร็งร้าย เกาะกินเศรษฐกิจไทย แม้ในยามปกติหรือในยามวิกฤต โรคนี้ก็ไม่หายหรือหมด ไปจากเศรษฐกิจไทย

ความกังวลด้านสังคม ที่ตามมาคือ เรื่องสุขภาพอนามัน การระบาดของโควิด ยังกังวล 64.16% เพราะไม่แน่ใจว่ามีการระบาดรอบสองหรือไม่

เมื่อดูจากทั้งการประมาณการเศรษฐกิจที่ยิ่งวันยิ่งแย่ การสำรวจของโพล ที่เรื่องเศรษฐกิจ ยังเป็นอันดับต้นของความกังวลของประชาชน ตามมาด้วยปัญหาการเมือง

ดังนั้น การบริหารแก้วิกฤตเศรษฐกิจ ของ ศบศ. ถ้ายังพายเรือวนอยู่ในอ่างเช่นนี้ เห็นที่วิกฤตเศรษฐกิจไทยจะหนักหนาสาหัสกว่าที่คิดไว้มาก




August 31, 2020 at 08:18PM
https://ift.tt/2YNA3ZI

เศรษฐกิจไทยใกล้สิ้นใจ ศบศ. ไม่ช่วยอะไร - โพสต์ทูเดย์

https://ift.tt/3crAsVL


Bagikan Berita Ini

0 Response to "เศรษฐกิจไทยใกล้สิ้นใจ ศบศ. ไม่ช่วยอะไร - โพสต์ทูเดย์"

Post a Comment

Powered by Blogger.