
นายกรัฐมนตรี พอใจ apan Credit Rating Agency(JCR) หรือ บริษัทการจัดอับดับเรตติ้งของญี่ปุ่น มองภาพรวมเศรษฐกิจไทย “มีเสถียรภาพ” แนวโน้มการลงทุนต่างชาติเพิ่ม ยืนยันไทยมีแผนบริหารจัดการหนี้สาธารณะที่รัดกุม
วันที่ 7 ส.ค. 63 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับทราบผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย โดย บริษัท Japan Credit Rating Agency, Ltd. (JCR) หรือ บริษัทการจัดอับดับเรตติ้งของญี่ปุ่น ยืนยันมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ (Stable outlook)
และความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้รัฐบาลระยะยาวสกุลเงินตราต่างประเทศ ที่ระดับ A- และสกุลเงินบาทที่ระดับ A เนื่องจากประเทศไทยมีมาตรการรับมือกับการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างมีประสิทธิภาพ ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล และทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ฟิทช์"หั่นเครดิตรวด 33 ประเทศเซ่นพิษโควิดครึ่งแรกของปีนี้
S&P ชี้รัฐบาลทั่วโลกมีแนวโน้มถูกหั่นอันดับความน่าเชื่อถือมากขึ้น
“CENTEL” ยังแกร่ง คงอันดับทริสเรทติ้ง ระดับ A ท่ามกลางโควิด
ไทยรับมือโควิด-19 ดี JCR ยันให้เครดิตเท่าเดิม
ในส่วนของการลงทุนจากต่างประเทศ ก็มีข้อมูลที่น่ายินดี เมื่อบีโอไอได้เปิดเผยยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนในช่วง 6 เดือนของปี 2563 (มกราคม-มิถุนายน) รวม 754 โครงการ เพิ่มขึ้น 7% มูลค่าเงินลงทุน 158,890 ล้านบาท
และเป็นนักลงทุนหน้าใหม่ที่ยื่นขอรับการส่งเสริมในโครงการใหม่ถึง 366 โครงการ หรือ 49% โดยมียอดเงินลงทุนรวม 42,520 ล้านบาท ขณะที่เป็นการลงทุนในพื้นที่อีอีซี(EEC)ถึง 225 โครงการมูลค่าเงินลงทุนรวม 85,480 ล้านบาท
นางสาวรัชดา กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีย้ำว่ารัฐบาลทำงานแบบ “New Normal” เดินหน้าสู่อนาคต โดยมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการเฝ้าระวังโควิด-19 แต่ยังคงยึดวินัยการเงินการคลัง รักษาระดับหนี้สาธารณะ ซึ่งนายกฯ มอบแนวทางให้สำนักบริการหนี้สาธารณะที่ดูแลเรื่องการกลั่นกรองแผนความต้องการกู้เงินระยะปานกลาง 5 ปี (พ.ศ.2564-2568)
และแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2564 ยึดเหตุผลความจำเป็นและความต้องการเงินกู้อย่างรอบคอบโดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับกรอบกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้แก่กฎหมายวินัยการเงินการคลังของรัฐและกฎหมายการบริหารหนี้สาธารณะทั้งนี้เพื่อให้การลงทุน การดำเนินโครงการ/แผนงาน นำไปสู่การกระตุ้นและพัฒนาเศรษฐกิจและรองรับสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังย้ำว่า การจัดเรทติ้งของญี่ปุ่นเป็นสัญญาณที่ดีสร้างความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทย แม้ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ยากลำบาก แต่รัฐบาลพร้อมขับเคลื่อนโครงการการลงทุนขนาดใหญ่ และการใช้เงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก เน้นการจ้างงาน สร้างรายได้ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง ซึ่งได้ทำมาแล้วหลายโครงการมากและยังคงจัดสรรงบประมาณให้เดินหน้าต่อไป
August 07, 2020 at 04:11PM
https://ift.tt/2XCD8Lv
"เศรษฐกิจไทย" ได้เกรด A มีเสถียรภาพ-แนวโน้มต่างชาติลงทุนเพิ่ม - ฐานเศรษฐกิจ
https://ift.tt/3crAsVL
Bagikan Berita Ini
0 Response to ""เศรษฐกิจไทย" ได้เกรด A มีเสถียรภาพ-แนวโน้มต่างชาติลงทุนเพิ่ม - ฐานเศรษฐกิจ"
Post a Comment