ปัญหาเศรษฐกิจกับหัวหน้าทีม - ไทยรัฐ

ekonomikesatu.blogspot.com

การปัดข้อเสนอ ร่วมทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ของ วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการแบงก์ชาติที่ใกล้จะครบวาระในเร็ววันนี้ เป็นการตั้งโจทย์ใน การปรับ ครม.ทีมเศรษฐกิจใหม่ ของ พล.อ.ประยุทธ์ โดยข้อเสนอว่าต้องมี หัวหน้าทีมเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง ต้องทำงานเป็นทีม

ถอดรหัสก็คือ ชุดทีมเศรษฐกิจรวมทั้งหัวหน้าทีม ต้องเป็นทีมเดียวกัน จะมาจากคนนอกก็คนนอกหมด ไม่มีนักการเมืองมาเป็นแกะดำ ก็ต้องมาถอดรหัสอีกว่า กระทรวงเศรษฐกิจ ประกอบด้วยกระทรวงใดบ้างในความหมายของ คนนอก ที่ผ่านมา รองนายกฯเศรษฐกิจเป็นคนนอก รมว.คลัง รมว.พลังงาน กึ่งๆมาจากคนนอก สวมหมวกการเมือง หรือจะยึดจากกติกาสากล กระทรวงเศรษฐกิจประกอบด้วย คลัง พลังงาน พาณิชย์ เกษตร คมนาคม ท่องเที่ยว ดิจิทัล อย่างนั้นคงเป็นโจทย์ที่ยากไปได้อีก เพราะมีโควตาของพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ด้วย

อีกปัญหาหนึ่งที่มีข้อถกเถียง คนนอกหรือคนใน หรือ มาจากนักการเมือง มาจาก ส.ส. พูดกันแบบตรงไปตรงมา คือเกรงว่า คนที่มาจาก ส.ส. มาจากนักการเมือง จะเข้ามาถอนทุน เข้ามาโกงกิน ทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งในอดีตภาพลักษณ์เป็นอย่างนั้นมาโดยตลอดทุกยุคทุกสมัย คนก็เลยกลัวไปหมด แม้จะการันตีไม่ได้ว่า คนนอกจะไม่โกง หรืออาจจะโกงเนียนๆกว่า หรือนักการเมืองเข้ามาแล้วจะต้องโกงทุกคน เถียงกันไปก็ไม่จบ

แต่ถ้าจะมองที่ความรู้ความสามารถตัดสินใจง่าย ดูจากข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศ อันดับแรกเรื่องของการเงินการคลัง ที่ผ่านมาเรามีปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่าอย่างรุนแรง มีปัญหาเรื่องของการส่งออก มีปัญหาเรื่องของการผลิต อุตสาหกรรม กระทบไปถึงภาคแรงงาน ท้ายที่สุดก่อหนี้ครัวเรือน หนี้สาธารณะในอัตราที่น่าเป็นห่วง

เอาเฉพาะ คนรุ่นใหม่ ก่อหนี้ขึ้นบานตะไท ไตรมาสแรกของปีนี้ ยอดสินเชื่อบุคคล เพิ่มขึ้นกว่า 8.4 แสนบัญชี เกินครึ่งเป็น กลุ่ม Gen Y มีหนี้รวมกันแล้วถึง 4 ล้านล้านบาท เป็นหนี้เสีย หรือเอ็นพีแอล 2.7 แสนล้านบาท รองลงมาคือ Gen X มีการก่อหนี้กันเอาไว้ 3.7 ล้านล้านบาท เป็นหนี้เสีย อยู่ในระบบ 2.8 แสนล้านบาท และถ้าพิษเศรษฐกิจไวรัสโควิด-19 เกิดผลกระทบเป็นรูปธรรมชัดเจน ผลกระทบจะเกิดขึ้นอีกหลายเท่าตัวจากการตกงานว่างงานที่เพิ่มขึ้น

ขณะที่ เบบี้บูมเมอร์ มีหนี้สิน 1.2 ล้านล้านบาท เป็นเอ็นพีแอล 8.4 หมื่นล้าน Gen Z มีหนี้สินรวม 2.5 หมื่นล้าน เป็นเอ็นพีแอลแล้ว 1.2 พันล้าน รวมหนี้เสีย หรือเอ็นพีแอล อาการโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศน่าเป็นห่วง

ในส่วนของหนี้ภาครัฐ แผนการก่อหนี้ใหม่ ปรับเพิ่มขึ้นสุทธิ 603,492 ล้านบาท ของเดิม 894,005 ล้านบาท รวมเป็น 1,497,498 ล้านบาท เพราะฉะนั้น ที่ดีอกดีใจได้รับเงินเยียวยา สารพัดประเภท เห็นตัวเลขหนี้แล้วคนไทยจะต้องแบกภาระไปอีกชั่วลูกชั่วหลาน เพราะแผนก่อหนี้ใหม่ของรัฐบาลปรับเพิ่มสุทธิ 582,789.64 ล้านบาท ของเดิม 748,879.11 ล้านบาท รวมเป็น 1,331,677.35 ล้านบาท เอาไปใช้เยียวยาโควิด-19 ให้ในโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ โครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมือง โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน โครงการรถไฟรางคู่ ลพบุรี-ปากน้ำโพ แยกเป็นแผนก่อหนี้ใหม่ของรัฐวิสาหกิจปรับเพิ่มอีก 18,702.49 ล้านบาท จากของเดิม 145,126.54 ล้านบาท รวมเป็น 163,829.03 ล้านบาท ภาระที่หนักหนาสาหัสขนาดนี้ จะเอาใครมาเป็นทีมเศรษฐกิจก็ต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดี.